สงครามกรุงทรอย


ตำนานกรีกโบราณ ได้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกตะวันตก ว่า กรุงทรอย (Troy) ตั้งอยู่บริเวณจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดของช่องแคบเฮลเลสพอนด์ (Hellespond) หรือช่องแคบดาร์ดาแนลส์ในปัจจุบัน เพราะสามารถควบคุมเส้นทางติดต่อระหว่างเอเชียกับยุโรปได้ทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งแต่เดิมนักปราชญ์ต่างก็เชื่อกันว่ากรุงทรอยเป็นตำนานที่ปรากฏเฉพาะในมหากาพย์เรื่องอีเลียต (Iliod) ของมหากวีโฮเมอร์ (Homer) เท่านั้น แต่ภายหลังเมืองทรอยถูกค้นพบโดยนักโบราณคดี ในปี ค.ศ. 1930
สงครามกรุงทรอยอันลือลั่นและม้าไม้เมืองทรอยจึงถูกปลุกขึ้นมาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแล้วครั้งเล่า และมหากาพย์เรื่องอีเลียตก็ยังคงเป็นประวัติศาสตร์กึ่งเทพนิยายที่คงความเป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้
สงครามทรอยในเรื่องอีเลียต กล่าวถึงสงครามระหว่างชนเผ่าเอเคียน (ชาวกรีก) กับพวกโทรจัน (ฝ่ายกรุงทรอย) ซึ่งโฮเมอร์เขียนขึ้นหลังจากที่กรุงทรอยล่มสลายไปแล้ว 300-400 ปี ดังนั้นจึงไม่เป็นที่แน่ชัดว่า โฮเมอร์แต่งเรื่องอีเลียตขึ้นจากตำนานที่ผู้คนเล่าสืบทอดกันมา หรือแต่งขึ้นจากจินตนาการของเขาเอง แต่ถึงกระนั้นเรื่องราวแห่งสงครามทรอยก็ยังได้รับการกล่าวขานถึงไม่รู้จบ

ชนวนสงครามเกิดจากการที่เจ้าชายปารีสซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าชายเฮกเตอร์แห่งทรอย ไปลักพาตัวเฮเลนชายาของพระเจ้าเมเนลาอุส กษัตริย์แห่งนครรัฐสปาร์ตาไปจากวัง ซึ่งถือเป็นการหยามเกียรติทั้งกษัตริย์เมเนลาอุส และ อากาเมมนอน ผู้เป็นน้องชายและเป็นกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจของไมซีเนีย ดังนั้นอากาเมมนอน จึงรวบรวมชนทุกเผ่าพันธุ์ของชาติกรีกเพื่อกรีฑาทัพไปแย่งตัวเฮเลนกลับคืนมาทรอย
ขณะเดียวกัน อากาเมมนอนนั้นก็มีเหตุผลอีกประการหนึ่งคือต้องการยึดทะเลอีเจียนมาเป็นของตนเอง เพื่อขยายอำนาจอาณาจักรไมซีเนียให้ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็รู้ว่าการบุกทรอยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเมืองทรอยมีกำแพงที่แข็งแกร่งและมีเจ้าชายเฮกเตอร์ซึ่งเป็นนักรบที่เกรียงไกร ยากที่จะปราบลงได้ง่าย
อากาเมมนอนจึงต้องจำใจเรียกตัวนักรบผู้เก่งกล้าอย่างอคิลลีส มาร่วมต่อสู้ด้วย เพราะใครๆ ก็รู้ว่า อคิลลีส นั้นได้รับพลังอมตะจากเทพธิดาเททิส ผู้เป็นมารดา และตัวอคิลลีสเองก็ต้องการสร้างชื่อเสียงให้ประวัติศาสตร์จารึกชื่อของเขาไว้ตลอดกาล จึงยอมเข้าร่วมทัพของอากาเมมนอลเพื่อโจมตีทรอย
หลังจากที่เจ้าชายเฮกเตอร์และเจ้าชายปารีสกลับคืนเมืองทรอยแล้ว ข่าวการกรีฑาทัพของกรีกก็แพร่สะพัดมาถึงพระกรรณของกษัตริย์ไปรอัมแห่งทรอยผู้เป็นพระราชบิดา ทั้งสามตัดสินใจเข้าสู่สงครามแทนที่จะส่งตัวเฮเลนคืน
ไม่นานนัก กองทัพเรือนับพันของชาวกรีกก็เข้าเทียบที่ชายฝั่งโทรจัน ภายใต้การนำของอคิลลีส และยึดชายหาดได้อย่างรวดเร็ว การสู้รบอย่างดุเดือดได้เริ่มต้นขึ้น แผ่นดินทรอยนองไปด้วยเลือดของชาวกรีกและชาวโทรจัน แต่อคิลลีสก็ยังไม่สามารถยึดเมืองทรอยได้
สงครามทรอยยืดเยื้อถึง 10 ปี และสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของชาวกรีก โดยชาวกรีกใช้กลอุบายนำเอาไม้มาสร้างเป็นม้าขนาดใหญ่ข้างในกลวง เพื่อซ่อนทหารกรีกไว้ข้างใน แล้วมอบเป็นของขวัญแก่ทรอย ด้วยวิธีนี้ทำให้ทหารกรีกสามารถเข้าไปเปิดประตูเมืองทรอย ในขณะที่ชาวทรอยกำลังหลับใหลและทหารกรีกจำนวนมากก็บุกเข้าเมืองทรอยได้เป็นผลสำเร็จ
หลังจากนั้นกรุงทรอยก็ถูกทหารกรีกเผาทำลายเมืองจนวอดวาย เวลาผ่านไปประมาณ 3,000 ปี กรุงทรอยที่ผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วนเหลือเพียงซากที่ทับถมซ้อนกันถึง 9 ชั้น ก็มีการค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวเยอรมันชื่อ เฮนดริค ชไลแมนน์ (Heinrich Sciliemann) ในปี ค.ศ. 1870 โดยจากข้อสันนิษฐานสามารถสรุปได้ว่า กรุงทรอยนั้นเป็นเมืองโบราณติดชายฝั่งทะเลอีเจียนตอนบน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี อันเป็นที่ตั้งของจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ประกอบด้วยช่องแคบดาร์ดาแนลล์ (Dardanelleds) และคาบสมุทรกัลป์ลิโปลี (Gallipoli)

ปัจจุบันกรุงทรอยอยู่ในเมืองชานักคาเล (Canakale) ประเทศสาธารณรัฐตุรกี ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง บริเวณกรุงทรอย มีการจัดแสดงแบบจำลองกรุงทรอย และเรื่องราวการค้นพบโดยนักโบราณคดี พร้อมทั้งภาพแผนผังเมืองทรอยที่ถูกสร้างซ้อนทับกันถึง 9 ชั้น มีซากเมืองเก่า กำแพง ประตู และม้าไม้จำลองแห่งทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ

เครดิต : http://bicycle2011.com/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AB/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น